11 เพลงเพื่อชีวิตสมัยใหม่ หลากหลายแนวดนตรีล้วนสะท้อนชีวิตได้

ใครเป็นคนนิยามคำว่าเพลงเพื่อชีวิต?
สิ่งนี้ก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่สำหรับเรา เพลงเพื่อชีวิตสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องเล่าแต่เรื่องการเมืองหรือการต่อสู้ทางอุดมการณ์เช่นในอดีต ไม่จำเป็นต้องมีทำนองโจ๊ะ ๆ ชวนให้หยิบขวดเหล้าขึ้นมาเคาะ แต่เป็นดนตรีแบบไหนก็ได้ เพียงแค่เพลงเหล่านั้นได้พูดเกี่ยวกับคนคนหนึ่ง สังคมที่ต้องอาศัยอยู่ ผู้คนที่ได้พบเจอ และสิ่งละอันพันละน้อยที่หมายความถึงการมีชีวิตอยู่ของเขา นี่ยังไม่รวมเพลงเพื่อชีวิตจำนวนไม่น้อยที่พูดถึงความรัก แต่ไม่ใช่แค่การแอบรัก สมหวัง หรืออกหัก เพราะมันคือความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

เราจึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวงดนตรีที่ทำเพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่ให้ได้ลองฟังและค้นหาความหมายของชีวิตจากเพลงเหล่านี้

Stoic – วัฏจักร

วงดนตรีที่ได้ขึ้นเล่น Tiger Jams 2 CenterStage กับดนตรีโฟล์กลุ่มลึกทั้งการเรียบเรียงดนตรีและเนื้อหาของเพลง ในเพลง วัฏจักร นี้ทำให้เราได้ทำความเข้าใจในชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องความสัมพันธ์หรือเรื่องใดก็ตามต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้ส่วนลึกภายในจิตใจยังคงย้ำเตือนในความทรงจำ แต่ร่างกายหรือสสารที่ผ่านพ้นไปไม่มีทางคงเดิม สิ่งที่พอจะทำได้คือการกำหนดจิตใจของเราให้เดินทางต่อ รอรับสิ่งใหม่ ๆ กับชีวิตที่เหลืออยู่

Hugo – บันไดสีแดง

หากได้ฟังเพลงของฮิวโก้ตั้งแต่ช่วง สิบล้อ มาจนถึงอัลบั้มภาษาอังกฤษ และงานอัลบั้มเต็มภาษาไทยของเขาแล้วก็จะพบว่าหลาย ๆ เพลงของเขาพูดเรื่องชีวิต สังคม และการเดินทางมากมายเหลือเกิน ยิ่งกับเพลงล่าสุด บันไดสีแดง ที่หยิบเอาฉากหนึ่งในสังคมอย่างสถานซื้อขายบริการทางเพศที่ทุกคนต่างก็รู้จัก แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดถึงมาเล่าเรื่องราวภายในนั้นอย่างตรงไปตรงมา

Yena – ชายเหวี่ยงแห

อย่างที่รู้กันดีว่าเยนาเป็นวงที่ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุดวงนึง กับการหยิบเรื่องเล็ก ๆ หรือสิ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันในสังคมของเรามาขยายจนเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนไปถึงจิตใจของเรา ตั้งแต่เรื่องคนรับใช้ เด็กขายพวงมาลัย ทหาร ตำรวจ ไปจนถึงช้าง และเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ทำให้เห็นภาพของชุมชนและชนชั้น นอกจากการเล่าความตรง ๆ แล้วยังสามารถตีความได้ถึงการทำตามความฝันของคนคนนึงที่อาจดูไร้สาระ แต่มันก็เป็นความตั้งใจหรือมีความสำคัญต่อชีวิตของเขาไม่ต่างจากความฝันของคนอื่น ๆ

สหายเขียว – มนุษย์เงินเดือน, Electric Neon Lamp – Employee of the Month, กึมดากึม – Sleep

วงนึงเป็นอัลเทอร์เนทิฟร็อกมัน ๆ อีกวงเป็นป๊อปร็อกเท่ ๆ อีกวงก็บลูส์ผสมลูกทุ่ง แต่ทั้งสามเพลงที่ตีแผ่เรื่องราวของชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้อย่างถึงพริกถึงขิง และเลือกใช้การตีความที่ต่างกัน อย่างสหายเขียวก็เหมือนระบายกันตรง ๆ อย่างอัดอั้นกับท่อน ‘เงินไม่พอใช้ ชีวิตต้องใช้เงิน ต้องหางานหาเงินให้ตัวเอง’ ส่วนณีอรก็มาในเชิงเปรียบเปรยว่า นี่ขยันแทบตายจนได้เป็นพนักงานดีเด่น ได้ขึ้นเงินเดือนมีเงินเก็บ แต่แล้วจะยังไงต่อเมื่อสุดท้ายก็ไม่ได้ไปใช้ชีวิต ไม่ได้มีความสุขแบบที่ควรจะเป็นจริง ๆ ส่วนกึมดากึมก็เล่าถึงความน่าเบื่อหน่ายที่ต้องตื่นมาเจอชีวิตซ้ำ ๆ ทุกวัน

Plot – หยาบและห้าว

งานพังก์ ๆ ดิบ ๆ แบบนี้แหละ เอาไว้ก่นด่าชีวิตได้อย่างสนุกทีเดียวเชียว ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ได้แอบจิกกัดการเมืองในฉากหน้าของความรัก (ใครผิด) ความสัมพันธ์เส็งเคร็ง (5 ปี) หรือสิ่งซ้ำเดิมในชีวิตที่ถูกป้อนเข้ามาอย่างจำเจ (ไม่มีอะไรใหม่หรอก ทุกอย่างแม่งก็เก่าหมด) เพลงล่าสุดจากวงนี้ก็เป็นเรื่องความเจ็บช้ำของการมาตามหาความฝันในเมืองหลวงที่ทุกคนต้องดิ้นรนจนท้อใจไปเอง

Srirajah Rockers – ทำลายบาบิโลน

อย่างที่บอกว่าเพลงเพื่อชีวิตมันไม่จำกัดแนวดนตรี จะมาเป็นเร็กเก้ย่อง ๆ ย้วย ๆ อย่างศรีราชาร็อคเกอร์ก็ได้ หลาย ๆ เพลงของเขาก็พูดเรื่องสังคม ชนชั้น การเมืองอย่างแยบยล อย่างเพลง Destroy Babylon นี่ก็พูดถึงบ้านเมืองที่เราอาศัยอยู่ในขณะนี้ กับทั้งทุนนิยมมอมเมา ข่าวข้อมูลเท็จ เปลือกปลอมที่ฉาบให้คนหลงผิด การเอารัดเอาเปรียบต่าง ๆ จนเราต้องหลบหนีไปหาความสงบสุขภายในจิตใจของเราเอง

Bomb at Track – สันติภาพ

เช่นกันกับวงเมทัล แร็ป ร็อกเดือด ๆ ที่จัดว่ามาแรงที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้ ด้วยดนตรีที่สบถถึงสังคมเฮงซวยและการคอรัปชันแบบตรงไปตรงมา และเพลงล่าสุดอย่าง สันติภาพ ก็พูดเรื่องการพยายามสร้างความสงบสามัคคีในประเทศ แต่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง เพราะอะไรกันหนอ เร็ว ๆ นี้พวกเขาก็จะมาเล่นให้ดูสด ๆ ที่งาน เห็ดสด 5 กันด้วยนะ ซื้อบัตรกันหรือยัง

Desktop Error – ปัจจุบันนา

ผลงานคลาสสิกจากวงอัลเทอร์เนทิฟมากฝีมือที่เล่าเรื่องราวการตามหาความหมายของชีวิต กับความเชื่อทางวิถีพุทธจะพร่ำบอกว่านิพพานคือการหลุดพ้นทุกข์ แม้จะรู้ว่าสุขที่แท้คือความว่างเปล่าในจิตใจ แต่ตอนนี้เรายังต้องดิ้นรนให้ผ่านเรื่องวุ่นวายไปให้ได้ในแต่ละวันเสียก่อน

จินตะ – ผู้วายชนม์

นี่น่าจะเป็นเพลงที่ใกล้เคียงกับเพลงเพื่อชีวิตสมัยก่อน ทั้งดนตรีที่เลือกเป็นโฟล์กเรียบง่าย และเนื้อหาที่บอกเล่าเรื่องวีรชนหรือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เสียสละชีวิตหรือความสุขส่วนตนเพื่ออุดมการณ์ หวังจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น โดยมีเพลงนี้เป็นเพลงสดุดีบุคคลเหล่านั้นให้เราพึงระลึกไว้ในดวงจิตเสมอ